ออมบำนาญเปลี่ยนภาษีเป็นเงินออม
.

จริงๆ นะคะ เวลาผ่านไปเร็วมาก ดูจากตัวเองนี่ชัดเลยค่ะ คือยังรู้สึกเหมือนว่าเราเพิ่งเล่นแชร์บอลกับเพื่อนมัธยมเมื่อไม่นานมานี่เอง เมื่อวานไปงานเลี้ยงรุ่นครบรอบ 25 ปีที่จบจากโรงเรียน ห๊ะ!!! เป็นไปได้
.
เพื่อนๆ แต่ละคนก็ดูเหมือนจะมีวิถีชีวิตแตกต่างกันออกไป บางคนสร้างครอบครัวมาดีมีการวางแผนชีวิตและการเงินรัดกุมน่าทึ่ง ครอบครัวจึงเริ่มมั่นคงขึ้น ขณะที่เพื่อนบางคนยังสะสางหนี้สินไม่จบก็มี บางคนชีวิตเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่คิดอะไรมากมาตั้งแต่วัยเรียนแล้ว ปัจจุบันก็ยังไม่คิดอะไร “ปล่อยไปตามชะตากำหนดน่ะเธอ”
.
อยากจะบอกเพื่อนว่า ชะตาอย่างเดียวไม่ได้ ตัวเราต้องกำหนดชีวิตของตัวเอง ใครๆ ก็อยากมีชีวิตสุขสบาย แม้ในยามที่เราหมดไฟที่จะทำงานหาเงินแล้ว แต่เงินที่เคยหามาและออมไว้ยังไม่หมดค่ะ เงินยังคงทำงานต่อให้เราได้ถ้าเราสามารถสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับเงินนั้น มันต้องมีวิธีสิ
วิธีหนึ่งก็คือการออมเพื่อวัยเกษียณ ในลักษณะเดียวกับการได้รับเงินบำนาญนั่นเอง
.
การออมเงินแบบนี้ถ้าเริ่มต้นได้เร็ว คุณก็จะมีเงินบำนาญเหลือเฟือสำหรับวันชิลๆ ที่ไม่ต้องไปทำงาน หลับตานึกภาพตัวเองนั่งจิบกาแฟริมระเบียงบ้านพักบนเนินเขา ชายหาด หรือที่ไหนก็ได้ที่ใจสั่งให้เป็น โดยมีเงินจากการออมแบบบำนาญเป็นพื้นฐานแห่งความสุขอันยั่งยืน
.
เอ้า เริ่มกันเลยค่ะ เลือกดูว่าการออมแบบบำนาญประเภทไหนบ้างที่น่าสนใจและเหมาะกับคุณที่สุด โดยรวมแล้วถ้าคุณทำงานประจำ เป็นคนในองค์กรของรัฐ หรือบริษัทเอกชนทั่วไป จะได้รับสิทธิในการออมแบบนี้กันอยู่แล้วทั้งกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ถ้าเป็นข้าราชการก็จะมีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
.
ผู้ที่ไม่ได้ทำงานประจำ ไม่ต้องกังวลค่ะว่าจะไม่มีบำเหน็จบำนาญอะไรกับเขา เพราะไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรก็สามารถมีเงินบำนาญเป็นของตัวเองได้ด้วยการทำประกันชีวิตค่ะ เลือกประเภทที่เป็นประกันแบบรับบำนาญ ซึ่งมีความมั่นคงมาก คุณสามารถที่จะออมเงินระยะยาวพร้อมได้รับการลดหย่อนภาษี แม่มดแอบคิดว่าเป็นการเปลี่ยนภาษีเป็นเงินออม สุดท้ายมีเงินเก็บออมไว้ใช้ยามเกษียณอย่างสบายๆ อยากมีเท่าไรก็เลือกแผนประกันที่เหมาะกับความต้องการของคุณได้เลย
.
บางคนอาจมองว่าการทำประกันชีวิตเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายด้วยระยะเวลาที่ยาวนานเป็นสิบๆ ปี โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาที่ต้องส่งเบี้ยประกันมันช่างเสียดาย ผลตอบแทนนี๊ดเดียว อย่าได้คิดอย่างนั้นเลยค่ะ ถ้าพิจารณากันให้ลึกซึ้งเงินปันผลคืนน้อย แต่เราได้ความคุ้มครอง และโดยส่วนใหญ่นักวางแผนทางการเงิน จะใช้ประกันบำนาญเพื่อตัดยอดที่เราจะต้องเสียภาษี คือยังไงเราก็จะต้องเสียอยู่แล้ว ก็เปลี่ยนมาเป็นเงินออมแทน ได้ประโยชน์ 4 ต่อ เสียภาษีน้อยลง ได้ปันผลอีกนี๊ดหน่อย ได้เงินออม และได้ความคุ้มครอง(ป้องกันความเสี่ยง) ถ้าคุณไม่ได้ทำประกัน พอถึงเวลาที่เกิดความเสี่ยงขึ้นจริงๆ จะร้องว่าน่าเสียดายกว่ากันเยอะ