เทคนิคการตั้งราคาขายเสื้อผ้ามือสอง
"ตั้งราคาอย่างไรให้รวย"
#เปลี่ยนร้อยให้เป็นล้านด้วยเสื้อผ้ามือสอง
.
การตั้งราคาเสื้อผ้ามือสอง แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับการตั้งราคาเสื้อผ้ามือหนึ่ง
ที่มีหลักทางการตลาดแนะนำการตั้งราคาเป็นสัดส่วนจากราคาต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน
.
สาเหตุเป็นเพราะ...
ต้นทุนเสื้อผ้ามือสองในกระสอบ หรือที่เราไปคัด ไม่เท่ากัน
แต่จะลดหลั่นตามแบรนด์ ตามคุณภาพ ตามความต้องการของลูกค้า
.
งง ใช่มั้ยค่ะ ว่า เวลาจ่ายๆเท่าจำนวนตัวที่ซื้อ ในราคาตัวละเท่ากัน ทำไมผู้เขียนบอกต้นทุนไม่เท่ากัน
.
มาดูตัวอย่างกันค่ะ เช่น กรณียกกระสอบเสื้อ
ในกระสอบมีเสื้อโดยประมาณที่ 600 ตัว
ใน 600 ตัว จะมีตัวที่หนึ่งที่สวยที่สุด และตัวที่ 600 อาจต้องทิ้งเป็น
ดังนั้นเราถึงไม่สามารถหารเฉลี่ย ต้นทุนจากจำนวนตัวทั้งหมดกับราคากระสอบได้
.
ในทำนองเดียวกัน
กรณีที่เราเปิดกระสอบคัดหัวผ้า หรือไปคัดผ้าจากราว
หน้าร้านขายส่งกำหนดต้องคัดขั้นต่ำ 150ตัว
ตัวที่หนึ่ง กับตัวที่ 150 ย่อมสวยไม่เท่ากัน
.
ดังนั้น เราจึงไม่สามารถกำหนดต้นทุนจริงๆ จากราคาที่เราจ่าย ไปเพื่อตั้งราคาขายปลีกได้
"นี่คือความต่างของเสื้อผ้ามือสองกับเสื้อผ้ามือหนึ่ง"
.
ทีนี้มาดูกัน ว่าจะตั้งราคาขายอย่างไรให้รวย
เราต้องแยกเสื้อผ้า ตามคุณภาพที่ส่งผลต่อราคา เช่น
1. แยกแบรนด์เนม หรือ ลายลิขสิทธิ์
2. แยกเนื้อผ้าคอตตอล ผ้ายีนส์ ผ้ายืด ผ้าลินิน ผ้าขนสัตว์
3. แยกแบบ ดีไซด์ เช่น กำลังอยู่ในสมัยนิยม เสื้อปัก เสื้อแฮนเมด
ดีไซด์กี๊ปเก๋ยูเรก้า
4. แยกคุณภาพการตัดเย็บ
5. แยกสภาพ
.
หลักๆถ้าเสื้อผ้าตัวใดมีครบองค์ประกอบข้างต้น เราต้องกล้าที่จะตั้งราคา ถ้าเป็นตัวที่ชอบ ตัวที่ใช่ หรือตัวที่เกิดมาเพื่อเราแล้ว ตามทฤษฏีแล้วคนเมื่อมีความต้องการแล้ว ถ้ามีกำลังซื้อพอจะยอมจ่าย ดังนั้น ถ้าจะรวยด้วยเสื้อผ้ามือสอง เราจำเป็นต้องแยก ผ้าเป็น เมื่อแยกเป็นแล้ว ต้องกล้าที่จะตั้งราคาตัวเด็ดให้ราคาเด็ดไปด้วย รับรองว่า ความรวยมาเยือนแน่นอนค่ะ
.
ผู้เขียนทำตัวอย่างการตั้งราคาพื้นฐานมาใช้ประกอบการขายกันด้วย สามารถปรับให้สอดคล้องกับเสื้อผ้า และตลาดของแต่ละคนได้นะค่ะ
#ขายส่งเสื้อผ้ามือสอง
#โรงเกลือบางบอน&พระรามสอง
#tul2hand
#เจร้มดบางบอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น